๑. การใช้ อำ- มีวิธีใช้ดังนี้
๑) ใช้เขียนคำไทยแท้ทุกคำที่ออกเสียงอำ เช่น
กำ ขำ คำ งำ จำ
เป็นต้น
๒) เขียนคำที่มาจากภาษาอื่นซึ่งไม่ใช่คำบาลีสันสกฤตและคำภาษาชาติยุโรป เช่น
กำปั่น กำยาน กำมะหยี่
สำราญ สำเริง สำปั้น
ตำมะหงง
๓) ใช้กับคำแผลงต่าง
ๆ ที่มาจากภาษาบาลีสันสกฤต และเขมร
เช่น
เกิด แผลงเป็น กำเนิด
ชะ แผลงเป็น ชำระ
เสียง แผลงเป็น สำเนียง
อมาตย์ แผลงเป็น อำมาตย์
ตรวจ แผลงเป็น ตำรวจ
เสร็จ แผลงเป็น สำเร็จ
๒. การใช้ อำม- มีวิธีใช้ดังนี้
ใช้เขียนคำไทยที่ยืมมาจากภาษาบาลีสันสกฤตที่เสียงเดิมเป็น อะ
แล้วมีตัว ม เรียงตามหลัง ( อม = อะมะ
) เมื่อนำมาใช้ในคำไทยแล้วแผลงเสียง อะ
เป็น อำ ต้องเขียน
อำม เช่น
อมหิต แผลงเป็น อำมหิต
อมรินทร์ แผลงเป็น อำมรินทร์
อมฤต แผลงเป็น อำมฤต
๓.
การใช้ อัม-
มีวิธีใช้ดังนี้
๑) ใช้เขียนคำที่มาจากภาษาบาลีสันสกฤต ซึ่งคำเดิมผสมด้วยสระอะ แล้วมีตัว
ม สะกด เช่น
คมฺภีร์ เป็น คัมภีร์
อมฺพร เป็น อัมพร
กมฺพล เป็น กัมพล
อมฺพาต เป็น อัมพาต
สมฺพนฺธ์ เป็น สัมพันธ์
๒) ใช้เขียนคำที่มาจากภาษาต่างประเทศอื่น
ๆ บางคำ เช่น
นัมเบอร์ มาจาก Number
ปั๊ม มาจาก Pump
กิโลกรัม มาจาก Kilogram
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น